สองคนที่เข้าคอร์สรื้อฟื้นความทรงจำกันตั้งแต่ห้าทุ่มจนตอนนี้ปาเข้าไปตีสองกว่า ความทรงจำของคุณหลานชายก็ยังไม่มีท่าทีว่าจะกลับมาสักนิด
จากตอนแรกที่ทำกันอยู่บนเตียงก็ย้ายลงไปต่อกันที่โซฟา
แทมินนอนหอบหนักราวกับจะขาดใจตายเสียให้ได้เพราะส่วนล่างยังถูกอีกคนกระแทกกระทั้นเข้ามาไม่ยั้ง
ดวงตาทั้งสองข้างหรี่ปรือจ้องมองร่างสูงที่แทรกกายอยู่กลางหว่างขาด้วยสายตาอ่อนล้า
แทมินไม่ได้ตั้งใจให้เรื่องออกมาเป็นแบบนี้
ที่จูบก็เพราะโมโหเรื่องลู่หานอยากทำให้จงอินรู้ว่าเขาต่างหากที่เป็นตัวจริง
แต่สุดท้ายมันก็ไม่จบแค่จูบอย่างที่คิด
ทะเลาะกันทีไรต้องถอดเสื้อผ้าเคลียกันตลอด สงสัยต้องใช้วิธีนี้ช่วยฟื้นความจำให้จงอินจริงๆสินะ T^T
ทะเลาะกันทีไรต้องถอดเสื้อผ้าเคลียกันตลอด สงสัยต้องใช้วิธีนี้ช่วยฟื้นความจำให้จงอินจริงๆสินะ T^T
“จ..จำอะไร อ๊า! ได้.. บ้างไหม?”
เสียงหวานเอ่ยออกมาด้วยความยากลำบาก
วันนี้จงอินคึกมากจนเขาตกใจ สีหน้าก็ดูเคร่งขรึมไม่เหมือนจงอินคนเดิม ..หรือมันจะเป็นอาการข้างเคียงของโรคความจำเสื่อม
แบบว่าลืมตัวตนของตัวเองไรงี้?
“ไม่ได้”
“งั้น ..อื้ออ ค่อยทำ อ๊ะ..ใหม่ วันหลัง”
"ไม่ไหวแล้วหรอ?"
จงอินกัดฟันสวนกายเข้าไปย้ำๆ
ช่องทางคับแคบของแทมินตอดรัดส่วนนั้นจนจงอินแทบจะคลั่ง เขาไม่อยากหยุดและไม่อยากปล่อยแทมินออกห่างจากตัวแม้แต่วินาทีเดียว
“ไม่มีแรงแล้ว ฮื่อ.. เบาๆ”
"ไม่เป็นไร แค่นอนครางเสียงหวานๆให้ผมฟังก็พอ”
ร่างสูงยิ้มมุมปาก
จับขาเรียวแยกออกให้กว้างขึ้นและรั้งเอวบางเข้ามาชิดกับตัวเองให้มากที่สุด ก่อนจะกระแทกแกนกายที่ยังฝังอยู่ห่วงสีแดงช้ำเข้าไปแบบเน้นๆทุกดอก
“ฮึ่ก ..อ๊า!!”
ใบหน้าสวยเงยขึ้นจนสุดคอ
รู้สึกจุกนิดๆเพราะไม่ทันได้ตั้งตัว มือเรียวดันหน้าท้องของคนขี้แกล้งให้หยุดขยับ แต่จงอินก็จับมือนั้นขึ้นมาฟาดที่ลำคอของตน แล้วกระแทกแกนกายต่อไปด้วยความรวดเร็วและถี่ยิบเล่นเอาแทมินดีดดิ้นร้องครางเสียงดังลั่น
“อ้ะ! อ๊า..จงอิน
ฮื่อ ..อ๊าาา!!”
ร่างเล็กรีบดึงคนด้านบนลงมาจูบปิดปากเพราะไม่สามารถกลั้นเสียงครางน่าอายนั้นได้
ที่ร้องออกไปเมื่อกี๊ไม่รู้ว่าจะมีใครได้ยินหรือเปล่า
ดึกดื่นเงียบสงัดแบบนี้แค่พูดกันธรรมดาก็ได้ยินกันหมดทั้งชั้นแล้วมั้ง
ปากอิ่มบดขยี้สู้กับริมฝีปากซีดด้วยความร้อนแรงไม่แพ้ส่วนล่างที่ยังเชื่อมกัน
จงอินยังซอยสะโพกถี่ๆตามแรงอารมณ์ดิบๆของตัวเอง แต่ถึงจะรุนแรงกับแทมินมากขนาดไหนจงอินก็รู้สึกว่ามันยังไม่พอ
เขาต้องการมากกว่านี้ อะไรที่สามารถทำกับแทมินได้เขาอยากทำทุกอย่าง อยากรักแทมินแรงๆ อยากกอดแทมินแน่นๆ .. ถ้าเข้าไปสิงแทมินได้เขาก็อยากจะทำ!
เขาต้องการมากกว่านี้ อะไรที่สามารถทำกับแทมินได้เขาอยากทำทุกอย่าง อยากรักแทมินแรงๆ อยากกอดแทมินแน่นๆ .. ถ้าเข้าไปสิงแทมินได้เขาก็อยากจะทำ!
มือหนาลูบไล้ผิวขาวเนียนไปทั่วทั้งร่าง
เล็บยาวจิกระบายอารมณ์กับแผ่นหลังกว้างอย่างอดทนอดกลั้น
ใบหน้าหล่อผละออกแล้วก้มลงดูดดึงยอดอกสีอ่อนสลับกับใช้ฟันคมขบกัดเบาๆทั้งสองข้าง
หน้าอกเล็กแอ่นรับสัมผัสจากริมฝีปากชื้นด้วยความกระสันซ่าน
“อื้อ.. เด็กบ้า”
“บ้าแล้วรักไหม?”
“ถามอีกแล้ว.. อ๊ะ! เดี๋ยวนะ.. ทำไมจำได้ล่ะ!”
จากที่กำลังเคลิ้มอยู่กับการไล้เลียหน้าอกขาวๆ
การกระทำทุกอย่างก็หยุดชะงักลง จงอินจ้องใบหน้าชื้นเหงื่อของคนเป็นอา สองสายตาประสานกันในความเงียบก่อนที่ร่างสูงจะเป็นฝ่ายเบือนหน้าหนี
“ก็.. ก็ถามไปงั้นแหละ ผมเคยถามแบบนี้กับคุณหรือไง?”
“ถามทุกวันอ่ะ หืม ..หรือว่าความจำนายเริ่มกลับมาแล้ว!” คนโตกว่าทำท่าทางตื่นเต้นแต่อีกคนกลับนิ่งเฉยเหมือนกำลังใช้ความคิด จงอินกุมขมับส่ายหัวเบาๆสีหน้าเคร่งเครียด
“จริงด้วยผมชักจะคุ้นๆแล้วอ่ะ.. โอ้ย ปวดหัวจัง”
“ไม่ต้องคิดแล้วๆเดี๋ยวก็จำได้เอง จงอินนอนพักเถอะนะ”
เห็นสีหน้าทรมานของหลานชายคุณอาก็รู้สึกเจ็บปวดไปด้วย
แทมินค่อยๆยันตัวลุกขึ้นหวังจะพาจงอินกลับไปนอนพักบนเตียง แต่ร่างบางๆก็ต้องล้มตัวลงไปนอนแผ่อีกครั้งเพราะถูกอีกคนผลัก
สิ่งที่ยังค้างอยู่เริ่มถาโถมใส่บั้นท้ายเล็กสานต่ออารมณ์ที่ยังดำเนินไปไม่ถึงจุดหมาย
“อึก.. ไม่เอาแล้ว ฮื่อ ไปนอน!”
“ก็นอนไปสิ หลับไปเลย”
“บ้าจริง! อ๊า.. ฉันหมายถึงนายนั่นแหละ”
ร่างกายยั่วยวนสั่นไหวตามแรงกระแทก ฟันซี่เล็กกัดปากกลั้นเสียงน่าอายของตัวเองเอาไว้
ความคิดที่จะพาจงอินไปนอนพักเลือนหายไปจากหัวสมองอย่างช่วยไม่ได้
“ทำหน้าเซ็กซี่ให้ดูก่อน ไม่งั้นไม่นอน”
ริมฝีปากซีดโน้มลงไปจูบหน้าผากเนียนเบาๆ
เกี่ยวเส้นผมเกะกะของคนตัวเล็กมาทัดที่หลังใบหูให้ ..
อันที่จริงแค่แทมินนอนร้องครวญครางกัดปากตัวเองอยู่ตอนนี้ก็เซ็กซี่แทบจะกระอักเลือดอยู่แล้ว
ถ้าเซ็กซี่มากไปกว่านี้คิมจงอินอาจจะหัวใจวายตายคาอกขาวๆของคุณอาก็เป็นได้
“ขอให้ปวดหัว ฮื้ออ ตายไปเลย!”
ถึงบนหัวจะมีผ้าพันแผลพันอยู่รอบหรือร่างกายจะเจ็บช้ำเพียงใดก็ไม่ช่วยให้ความลามกลดลงได้เลยสินะ
แทมินได้แต่แอบเหน็บในใจส่งสายตาเคืองๆไปให้เผื่อว่าหลานชายจะรู้สึกผิดขึ้นมาบ้าง
แต่ทำไปก็เท่านั้นเพราะนอกจากเด็กหื่นมันจะไม่รู้สึกผิดแล้วยังแกล้งมองโลมเลียให้แทมินอายม้วนอีกต่างหาก
บทรักร้อนแรงยังดำเนินต่อไปตามอารมณ์ของทั้งคู่
แทมินถูกจับให้อยู่ในท่าคลานเข่าโดยที่จงอินเป็นคนควบคุมทุกอย่าง
ร่างสูงซ้อนตัวอยู่ข้างหลังจับยึดเอวบางไว้มั่น
อัดส่วนกลางลำตัวเข้าไปในช่องทางคับแคบอย่างหนักหน่วง
มือข้างที่ว่างล้วงลงไปกอบกุมส่วนนั้นของแทมินขยับรูดขึ้นรูดลงจนร่างเล็กทนไม่ไหวปลดปล่อยออกมาในที่สุด
“ฮึ่ก.. อ่าาาาส์..”
แขนเรียวที่ใช้ยันโซฟาอ่อนแรงจนไม่สามารถประคองตัวเองได้
ร่างเล็กฟุบหน้าลงกับเบาะนิ่มสะโพกกลมกลึงถูกมือหนาดึงขึ้นมาให้อยู่ในระดับเดิมเพื่อไม่ให้จังหวะการสอดใส่ต้องเสียสมดุล
คิ้วบางขมวดมุ่นเจ็บแสบทุกครั้งที่ผนังอ่อนนุ่มถูกเสียดสี แต่มันก็ปนๆไปกับความรู้สึกดีที่แทมินไม่อาจปฏิเสธได้เช่นกัน
จงอินเร่งจังหวะให้เร็วขึ้นเพราะรู้ว่าแทมินใกล้จะไม่ไหว
ไม่นานนักน้ำสีขาวขุ่นก็ฉีดพ่นออกมาทั้งที่ยังฝังอยู่ในนั้น
เด็กหนุ่มกัดฟันแน่นเมื่อความต้องการถูกปลดปล่อยโดยมีร่างเล็กเป็นคนรองรับ
จงอินแช่ค้างไว้สักครู่แล้วค่อยถอนแกนกายออก ตาคมจ้องมองห่วงสีแดงช้ำที่มีน้ำของตนไหลทะลักออกมาแล้วก็นึกสงสาร
วันนี้เขาเอาแต่ใจมากแถมยังเผลอทำรุนแรงไปหลายรอบแทมินคงจะบอบช้ำน่าดู
จงอินส่ายหัวกับการกระทำแย่ๆของตัวเองแล้วทิ้งตัวนั่งเอนหลังพิงพนักโซฟา
แผงอกชื้นเหงื่อกระเพื่อมขึ้นลงตามการหอบหายใจ หลายชั่วโมงที่ไม่ได้หยุกพักทำเอาเรี่ยวแรงหายไปเยอะพอสมควร
“จะรีบลุกทำไม?” หันไปถามคนตัวขาวที่พยายามจะลุกขึ้นด้วยความงง
ขาเรียวหย่อนลงมาแตะพื้นแล้วฝืนยันตัวขึ้นทั้งที่ช่วงล่างยังระบมไปหมด
“โอ้ย!”
ทันทีที่ยืนขึ้นข้อพับขาก็รับน้ำหนักไม่ไหว และเหมือนจงอินจะรู้ตั้งแต่แรกว่าจะเกิดอะไรขึ้นเลยเอื้อมไปคว้าเอวบางแล้วรั้งให้แทมินล้มมานั่งทับตัวเอง
ใบหน้าหล่อเหยเกเล็กน้อยเพราะคุณอาทิ้งน้ำหนักตัวลงมาโดนแผลของเขาเต็มๆ
“…เจ็บ”
“อ่ะ.. ขอโทษๆโดนแผลหรอ?”
ได้ยินเสียงซี๊ดปากของหลานชาย แทมินก็ลุกลี้ลุกลนทำท่าจะลุกขึ้นจากตักที่พึ่งจะล้มทับ จงอินขมวดคิ้วรีบกอดเอาไว้ก่อนที่แทมินจะทำตัวซุ่มซ่ามอีก
“จะไปไหน?”
“กลับห้องไง”
“สภาพนี้เนี่ยนะ? ไม่ต้องกลับอ่ะ นอนด้วยกันนี่แหละ”
คนพูดแนบแก้มลงกับแผ่นหลังเนียนของคนบนตัก ล็อคเอวบางไว้แน่นไม่ให้ลุกหนีไปไหนแต่มีหรือที่แทมินจะยอม
“เดี๋ยวตอนเช้าคนก็แห่กันมาเยอะแยะ อานอนด้วยไม่ได้หรอก”
“มาก็มาสิไม่เห็นต้องแคร์ ผมจะล็อคประตูไม่ให้ใครเข้า จะได้นอนกอดอาทั้งวันเลยดีไหม?”
แทมินยิ้มน้อยๆกับคำพูดเอาแต่ใจของอีกฝ่าย
อยากบอกเหลือเกินว่าดีแต่ก็บอกไม่ได้เพราะถ้าทำแบบนั้นจริงต้องกลายเป็นเรื่องใหญ่โตแน่
ดวงตาคู่สวยสั่นไหวเล็กน้อย รู้สึกร้อนผ่าวตรงขอบตาเหมือนอยากจะร้องไห้ ความอึดอัดมันคับแน่นอยู่ในใจ อยากระบายทุกอย่างให้จงอินรับรู้ว่าตอนนี้เวลาที่จะได้อยู่ด้วยกันมันเหลือน้อยลงทุกที ยิ่งจงอินจำอะไรไม่ได้ก็ยิ่งปวดใจ แทมินไม่อยากจากไปทั้งที่จงอินยังจำเรื่องราวระหว่างเราไม่ได้
ดวงตาคู่สวยสั่นไหวเล็กน้อย รู้สึกร้อนผ่าวตรงขอบตาเหมือนอยากจะร้องไห้ ความอึดอัดมันคับแน่นอยู่ในใจ อยากระบายทุกอย่างให้จงอินรับรู้ว่าตอนนี้เวลาที่จะได้อยู่ด้วยกันมันเหลือน้อยลงทุกที ยิ่งจงอินจำอะไรไม่ได้ก็ยิ่งปวดใจ แทมินไม่อยากจากไปทั้งที่จงอินยังจำเรื่องราวระหว่างเราไม่ได้
“พูดเป็นเรื่องตลก ทำแบบนั้นได้ที่ไหนล่ะ”
“ไม่อยากอยู่กับผมหรอ?”
มือหนาบีบเคล้นเนื้อนิ่มบริเวณเอวคอดเล่นอย่างเพลินมือ
ไม่ใช่แค่แทมินที่คิดมาก จงอินก็มีเรื่องให้คิดเหมือนกันเพียงแต่ตอนนี้ยังบอกให้คนตัวเล็กรู้ไม่ได้
“ไม่อยากอ่ะ จงอินชอบดื้อไม่เชื่อฟังอา อาจะหนีไปอยู่ที่ไกลๆเลย
ดูซิจะมีเด็กคลั่งตายไหม”
แทมินแกล้งพูดทีเล่นทีจริง เบี่ยงตัวนั่งตะแคงข้างพลางยกแขนโอบรอบคอจงอินไว้หลวมๆ
รอยยิ้มหวานๆแต่แววตากลับเศร้าหมองจงอินสัมผัสมันได้แม้ว่าแทมินจะพยายามปกปิดไม่ให้เขาเห็น
“ไม่คลั่งอย่างเดียวนะ จะตามล่าด้วย”
“น่ากลัวจัง”
“กลัวก็อย่าหนี เพราะผมจะตามจนกว่าจะเจอ ..สัญญาสิว่าจะไม่หนีไปไหน
คุณจะไม่ทิ้งผมใช่ไหม? ตอนนี้ชีวิตผมมีแค่คุณคนเดียวนะ”
น้ำเสียงกับสายตาจริงจังที่ส่งมาทำเอาแทมินพูดอะไรไม่ออก ใบหน้าหล่อคมซุกเข้ากับแผ่นอกเล็กตรงหน้า
รู้สึกรักและผูกพันกับแทมินจนอธิบายออกมาเป็นคำพูดไม่ได้
ถ้าคนๆนี้หายไปสาบานเลยว่าคิมจงอินไม่มีทางอยู่เฉย และจะทำทุกวิถีทางให้อีแทมินอยู่กับเขาไปตลอดชีวิต..
คนตัวเล็กน้ำตาซึม มือเรียวลูบหัวคนในอ้อมกอดโดยที่ไม่ได้ตอบรับอะไรกลับไป
ไม่อยากสัญญาให้จงอินเสียใจเพราะรู้ดีว่ามันเป็นไปไม่ได้
อันที่จริงปล่อยให้จงอินไม่รู้เรื่องอย่างนี้ต่อไปก็ดีเหมือนกัน
เขาจะได้เจ็บคนเดียว แบกรับทุกความรู้สึกไว้คนเดียว
“รักผมไหม เคยรักผมบ้างหรือเปล่า?”
คำถามที่ไม่เคยได้คำตอบแต่ก็ยังอยากจะถามเผื่อว่าแทมินจะใจอ่อนยอมตอบเขาสักครั้ง แต่ความเงียบที่เข้าปกคลุมหลายนาทีก็ทำให้รู้ว่าคงไม่ใช่ครั้งนี้ ..
ไม่มีคำตอบหลุดออกมาให้ได้ยิน มีเพียงแค่แรงโอบกอดที่กอดจงอินแน่นขึ้นและริมฝีบากอิ่มที่จูบลงบนศีรษะเบาๆ ร่างสูงถอนหายใจยอมแพ้ให้กับความปากแข็งของคุณอา แต่ก็ไม่ลืมที่จะพูดประโยคเดิมๆอย่างที่เคยพร่ำบอกอยู่ทุกวัน
ไม่มีคำตอบหลุดออกมาให้ได้ยิน มีเพียงแค่แรงโอบกอดที่กอดจงอินแน่นขึ้นและริมฝีบากอิ่มที่จูบลงบนศีรษะเบาๆ ร่างสูงถอนหายใจยอมแพ้ให้กับความปากแข็งของคุณอา แต่ก็ไม่ลืมที่จะพูดประโยคเดิมๆอย่างที่เคยพร่ำบอกอยู่ทุกวัน
“รักนะ รักแทมินนะครับ”